เคยไหมที่รู้สึกรำคาญเสียงรบกวนจากภายนอกบ้าน? เคยไหมที่ในบางครั้งก็รู้สึกหวาดระแวงว่าตัวเองจะส่งเสียงดังออกไปรบกวนผู้อื่น หรือกลัวว่าสิ่งที่ตนเองพูดคุยในห้องจะเล็ดลอดออกไปให้คนอื่นได้ยิน? หากต้องการให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป “ฉนวนกันเสียง” จะช่วยคุณได้
หลาย ๆ คนก็อาจจะยังไม่รู้จักเกี่ยวกับฉนวนกันเสียงดีสักเท่าไหร่ ในวันนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับฉนวนกันเสียงว่าฉนวนกันเสียงคืออะไร มีคุณสมบัติและใช้งานประเภทไหนได้บ้าง และสำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะซื้อฉนวนกันเสียงยี่ห้อไหนดี ทางเราก็รวบรวม 10 ยี่ห้อฉนวนกันเสียงที่น่าสนใจไว้ให้คุณเช่นกัน
ฉนวนกันเสียง คือ
ฉนวนกันเสียง หรือที่เรียกว่าแผ่นกั้นเสียง คือ วัสดุที่ถูกออกแบบสำหรับการป้องกันเสียงเล็ดลอดออกไป และช่วยกันให้เสียงเล็ดลอดออกไปให้น้อยที่สุด โดยส่วนมากแล้วมักจะนำฉนวนกันเสียงมาใช้ในการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาในห้อง ทำให้ภายในห้องมีความเงียบสงบมากขึ้นนั่นเอง
ซึ่งหลาย ๆ คนก็มักจะเข้าใจผิดกับ แผ่นซับเสียง ว่าแผ่นซับเสียงจะช่วยป้องกันเสียงรบกวนได้เหมือนกับฉนวนกันเสียง แต่ที่จริงแล้วแผ่นซับเสียงจะช่วยในเรื่องการลดเสียงก้อง และเสียงสะท้อนภายในห้องเท่านั้น ไม่ได้ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก และช่วยกันเสียงจากในห้องออกไป
ในปัจจุบัน ฉนวนกันเสียงมักจะถูกนำมาใช้ติดตั้งภายในห้องคอนโด ห้องประชุม ห้องทำงาน รวมถึงห้องอื่น ๆ ที่ต้องการความสงบ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการติดแผ่นใช้งานไม่ตรงจุดประสงค์ จึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับฉนวนกันเสียงและแผ่นซับเสียงก่อนว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างก่อนติดตั้ง
เลือกฉนวนกันเสียง ต้องดูอะไรบ้าง
ในปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทได้ผลิตฉนวนกันเสียงออกจำหน่ายมากมาย ซึ่งถ้าถามว่าจะซื้อฉนวนกันเสียงห้อไหนดี นั้นจะต้องพิจารณาตามคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้
ตำแหน่งใช้งาน
ก่อนที่จะเลือกซื้อฉนวนกันเสียงยี่ห้อไหนดี จะต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่ต้องการจะใช้งานฉนวนกันเสียงก่อน ซึ่งแต่ละตำแหน่งก็จะมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นประเภทของฉนวนกันเสียงที่ต้องเลือกใช้ก็จะมีความแตกต่างด้วยเช่นกัน
ฉนวนกันเสียงที่เพดาน
ในบางครั้งที่ได้ยินเสียงรบกวนจากห้องข้างบน หรือในบ้านที่ได้ยินเสียงฝนตกหนักกระหน่ำใส่หลังคา เชื่อว่าเสียงเหล่านั้นล้วนสร้างความรำคาญใจกับไม่มากก็น้อย เพื่อป้องกันเสียงรบกวนเหล่านั้น การติดตั้งฉนวนกันเสียงที่เพดานก็จะช่วยให้ปัญหาเหล่านั้นหมดไป
โดยฉนวนกันเสียงเพดานที่นิยมใช้ คือ แผ่นโฟมพียู ฉนวนใยแก้ว และฉนวนใยหิน ที่นอกจากจะช่วยกันเสียงได้แล้วยังช่วยกันความร้อนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี โดยแต่ละประเภทนั้นก็จะมีคุณสมบัติต่างกัน ดังนี้
- แผ่นโฟมพียู → มีน้ำหนักเบา สามารถตัดแต่งตามลักษณะอาคารได้ แต่ก็ผุกร่อน พังง่ายเช่นกัน
- ฉนวนใยแก้ว → นำความร้อนต่ำ ป้องกันเสียงได้ดี แต่ไม่สามารถติดตั้งแบบเดี่ยว ๆ ได้ เพราะจะทำให้หายใจระเคือง
- ฉนวนใยหิน → กันความร้อนได้ดีมาก แต่กันความชื้นได้ไม่ดีนัก
ฉนวนกันเสียงที่ผนัง
โดยทั่วไปวัสดุที่ใช้นำมาใช้ในการทำผนังห้องจะมีคุณสมบัติช่วยป้องกันเสียงในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยป้องกันเสียงรบกวนทั้งหมดได้ ยิ่งในกรณีของผู้ที่อาศัยอยู่ในห้องชุดคอนโด อพาร์ทเม้นท์ หรือหอพัก เชื่อว่าจะต้องเคยได้ยินเสียงจากห้องข้าง ๆ รบกวนเป็นบางครั้ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องติดตั้งฉนวนกันเสียงที่ผนังเพิ่มอีกชั้นเพื่อป้องกันเสียงที่จะเล็ดลอดผ่านเข้าห้อง
ซึ่งฉนวนกันเสียงที่ผนังที่หลาย ๆ คนมักใช้ติดเพื่อกันเสียงจากภายนอกเข้ามานั้น คือ แผ่นอะคูสติคบอร์ด(Acoustic Board) ที่มีความเบา ขนย้าย และติดตั้งได้ง่าย ๆ และปลอดภัย โดยนำแผ่นอะคูสติคใส่เข้าไปในส่วนที่ต้องการติดตั้ง แล้วปิดทับอีกชั้นด้วยผนัง
ฉนวนกันเสียงที่รถยนต์
สำหรับผู้ที่ขับรถแล้วไม่ต้องการให้เสียงจากภายนอกมารบกวนมากนัก “แผ่นแดมป์” จะเป็นทางเลือกที่จะช่วยได้เป็นอย่างดี ซึ่งแผ่นแดมป์เป็นแผ่นที่ถูกออกแบบขึ้นมาสำหรับรถยนต์โดยจะต้องรื้อส่วนประกอบในห้องเครื่องในรถเพื่อติดตั้ง โดยแผ่นแดมป์นอกจากจะช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกแล้ว ยังช่วยลดการสั่นสะเทือนภายในรถ และยังทำให้เสียงเพลงในรถมีความกังวานมากขึ้นได้ด้วย
ค่า STC
ค่า STC (Sound Transmission Class) คือ ค่าที่ใช้บอกประสิทธิภาพในการกันเสียง หรือค่าป้องกันเสียงผ่าน ซึ่งในฉนวนกันเสียงจะมีระบุค่า STC เพื่อแจงว่าฉนวนกันเสียงสามารถกันเสียงได้มากน้อยแค่ไหน โดยยิ่งมีค่า STC มากก็หมายความว่าจะช่วยกันเสียงเล็ดลอดออกไปได้มากขึ้นเท่านั้น
- ค่า STC 30 → กันเสียงพูดคุยธรรมดาได้ แต่ยังพอจับใจความที่คุยกันได้
- ค่า STC 40 – 50 → กันเสียงพูดคุยธรรมดา จับใจความที่คุยกันไม่ได้ แต่ถ้าพูดเสียงดังก็จะยังได้ยินเสียงและฟังออกว่าคุยอะไรกันอยู่ได้
- ค่า STC 60 – 70 → กันเสียงพูดดังได้ จับใจความที่คุยกันไม่ได้ แต่ถ้าเล่นดนตรีก็จะได้ยินเสียงเล็ดลอดมาบ้าง
- ค่า STC 75+ →กันเสียงเล่นดนตรีได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ค่า STC ที่มากขึ้นก็จะแลกกับความหนาของฉนวนกันเสียงที่เพิ่มขึ้นตามด้วยเช่นกัน นั่นหมายความว่าขนาดห้องก็จะดูเล็กลงตามความสามารถกันเสียงของฉนวนกันเสียง
ลายของฉนวนกันเสียง
ในการเลือกซื้อแผ่นฉนวนกันเสียงนั้นจะต้องคำนึงถึงลายของฉนวนกันเสียงด้วย โดยลายที่ต่างกันก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการกันเสียงต่างกันนิดหน่อย โดยลายที่นิยมเลือกใช้จะมี ลายเรียบ ลายตาราง ลายรังไข่ ลายพีระมิด และลายสามเหลี่ยมฟันปลา
ความหนาของฉนวนกันเสียง
หากต้องการเลือกฉนวนกันเสียงที่กันเสียงได้ดี จะต้องพิจารณาจากความหนาของแผ่นด้วย โดยฉนวนกันเสียงยิ่งมีความหนามากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งกันเสียงรบกวนได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามฉนวนกันเสียงยิ่งกันเสียงได้ดีเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีความหนาเพิ่มขึ้น ถ้าติดแผ่นหนาก็จะทำให้ห้องดูเล็กลง แต่ถ้าติดแผ่นบางก็จะกันเสียงได้น้อย ดังนั้นจึงควรพิจารณาตามความเหมาะสมและความต้องการของตนเอง
ฉนวนกันเสียง ยี่ห้อไหนดี 10 ตัวเลือกที่แนะนำ
หลังจากที่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกฉนวนกันเสียงตามการใช้งานแล้ว ต่อจากนี้เราก็จะมาแนะนำฉนวนกันเสียงยี่ห้อไหนดี 10 ยี่ห้อ
1. ฉนวนกันเสียง Rockwool Safe ‘n’ Silent Pro 330
ฉนวนกันเสียง Safe ‘n’ Silent Pro ของ Rockwool มีคุณสมบัติที่ช่วยดูดซับเสียงรอบข้างได้มากถึง 90% โดยตัวฉนวนทำขึ้นจากหินภูเขาไฟธรรมชาติช่วยกันความร้อน กันน้ำ และยังไม่ดูดซับความชื้น นอกจากนี้แล้วยังมีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานโดยที่ยังคงรูปทรงเดิมอยู่ได้ อีกทั้งยังมีฉนวนกันเสียงให้เลือกอย่างหลากหลายด้วยกัน
ราคา : ประมาณ 300 – 1,400 บาทขึ้นไป
2. ฉนวน SCG Stay Cool
ฉนวนกันความร้อน SCG Stay Cool มีคุณสมบัติหลักซึ่งจะช่วยกันความร้อน ทำให้ภายในห้องมีอุณหภูมิลดลง 3-5 องศา อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเด่น ๆ คือ สามารถนำมาใช้เป็นฉนวนกันเสียงได้ ทำให้หมดห่วงเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก เช่น เสียงฝนตก เสียงรบกวน
แต่เนื่องจากฉนวนนี้ผลิตจากเส้นใยแก้วและอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผู้ที่อาศัยอยู่ในห้องง่าย โดยสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพประมาณ 10 ปี และฉนวนกันความร้อนก็จะค่อย ๆ ยุบตัวลง
ราคา : ประมาณ 350 – 1,050 บาทขึ้นไป
3. ฉนวนกันเสียง Cylence Zoundblock
ฉนวนกันเสียง Cylence Zoundblock ของ SCG ผลิตขึ้นจากวัสดุที่มีความแข็งแรงคงทน ทำให้ใช้งานได้ยาวนาน แต่ด้วยน้ำหนักที่เบาจึงสามารถขนย้าย ติดตั้งด้วยตนเองได้ง่าย โดยฉนวนนี้มีคุณสมบัติช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกห้อง และช่วยป้องกันไม่ให้เสียงภายในห้องรั่วไหลออกไป
ราคา : ประมาณ 1,900 บาทขึ้นไป
4. ฉนวนกันเสียง PROSORB
ฉนวนกันเสียง PROSORB ผลิตขึ้นจากโพลียูรีเทน ซึ่งมีความยืดหยุ่นและเหนียว ทำให้ตัวแผ่นฉีกขาดได้ยาก สามารถใช้งานได้นาน แต่ด้วยน้ำหนักที่เบาจึงสามารถขนย้าย และติดตั้งด้วยตนเองได้ง่ายเพียงแค่ใช้กาว โดยฉนวนนี้มีคุณสมบัติช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกห้อง และช่วยป้องกันไม่ให้เสียงภายในห้องรั่วไหลออกไป
โดนฉนวนกันเสียงของ PROSORB จะมีหลายรุ่นและหลายขนาดให้เลือกด้วยกัน โดยการันตีเรื่องคุณภาพเรื่องเสียงให้มีไม่ดังเกิน และไม่ก้อง
ราคา : ประมาณ 500 – 1,200 บาทขึ้นไป
5. ฉนวนกันเสียง Daitex
ฉนวนกันเสียง Daitex มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเสียงเข้าและออกจากห้องได้ ผลิตขึ้นจากฉนวนใยหินซึ่งจะช่วยป้องกันการลามไฟและยังไม่จำเป็นต้องระแวงเรื่องปลวกขึ้น อีกทั้งตัวแผ่นจะมีน้ำหนักที่เบา และมีความบาง ทำให้ขนย้ายและติดตั้งด้วยตนเองได้สะดวกสบาย แต่ก็ฉนวนกันเสียงนี้จะต้องระวังเรื่องฝุ่นเนื่องจากฝุ่นสามารถเกาะแผ่นฉนวนกันเสียงง่าย
ราคา : ประมาณ 170 – 460 บาทขึ้นไป
6. ฉนวนกันเสียง American Sound
ฉนวนกันเสียง American Sound เป็นฉนวนกันเสียงที่นิยมใช้ในการติดกับรถยนต์ เพื่อให้ภายในรถมีความเงียบสงบและยังช่วยทำให้ภายในรถเย็นลงได้ด้วย โดยตัวแผ่นฉนวนกันเสียง(แดมป์) จะมีกาวเหนียวติดแน่นอยู่ในแผ่น ทำให้ไม่ต้องกังวลว่ากาวจะลอกออกแม้ว่าจะจอดรถตากแดดนาน
ราคา : ประมาณ 370 – 1,600 บาทขึ้นไป
7. ฉนวนกันเสียง MPE
ฉนวนกันเสียง MPE เป็นฉนวนกันเสียงที่จะช่วยป้องกันเสียงรบกวนผ่านเข้าออกได้ดี โดยผลิตขึ้นจากโฟมโพลีเอทิลีนซึ่งช่วยป้องกันการลุกลามไฟ มีความยืดหยุ่น ทนทาน และปรับแต่งติดตามทรงของอาคารได้โดยไม่ต้องเจาะผนัง และด้วยความที่เนื้อโฟมมีความเหนียวยืดหยุ่นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องแมลงกัดแทะ
ราคา : ประมาณ 1,200 บาทขึ้นไป
8. ฉนวนกันเสียง Worldtech
ฉนวนกันเสียง Worldtech เป็นฉนวนกันเสียงแบบแผ่นแดมป์ที่ใช้ในการติดตั้งป้องกันเสียงจากภายนอกเข้าสู่ภายในรถยนต์ได้ อีกทั้งยังทำให้ในรถแอร์เย็นขึ้นอีกด้วย โดยตัวแผ่นมีขนาดกะทัดรัด มีกาวติดอยู่กับแผ่นเลยสามารถติดตั้งได้ง่าย และตัวกาวมีความเหนียวจึงทำให้มีอายุใช้งานยาวโดยไม่ต้องกลัวว่ากาวจะหลุด
ราคา : ประมาณ 220 บาทขึ้นไป
9. ฉนวนกันเสียง FE-felt
ฉนวนกันเสียง FE-felt เป็นฉนวนกันเสียงที่โดดเด่นในด้านของดีไซน์ มีแผ่นหลายรูปแบบให้เลือกใช้ เหมาะกับผู้ที่ชอบแต่งห้องเป็นอย่างมาก โดยตัวฉนวนผลิตขึ้นจากขวดน้ำพลาสติกโพลิเอสเตอร์รีไซเคิล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมิตรต่อธรรมชาติ และยังสามารถติดตั้งด้วยตนเองง่าย ๆ เพราะด้านหลังของแผ่นฉนวนมีแผ่นกาวติดอยู่ หากต้องการติดก็เพียงแค่ลอกกาวออกมา แต่จะช่วยกันเสียงได้ไม่มากนัก
ราคา : ประมาณ 400 – 2,00 บาทขึ้นไป
10. ฉนวนกันเสียง TNC
ฉนวนกันเสียง TNC เป็นฉนวนกันเสียงฝ้าและเพดานที่ผลิตขึ้นจากโพลียูรีเทนเกรดเดียวกับวัสดุที่ทำเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งช่วยป้องกันไฟลุกลาม โดยตัวแผ่นจะมีคุณสมบัติช่วยกักเก็บเสียงภายในห้อง ลดเสียงสะท้อนและเสียงก้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ฉนวนซับเสียงนั้นมีขนาดใหญ่จึงช่วยลดเวลาในการติดตั้งได้เป็นอย่างมาก
ราคา : ประมาณ 180 บาท หรือ 250 บาท ต่อตารางเมตร
สรุปเรื่องฉนวนกันเสียง ยี่ห้อไหนดี
จากที่ได้อ่านรีวิว 10 ยี่ห้อฉนวนกันเสียงยี่ห้อไหนดีแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงจะเลือกยี่ห้อที่ใช่สำหรับตนเองได้เรียบร้อยแล้ว และกำลังหาที่ซื้อฉนวนกันเสียงอยู่ หรือสำหรับบางคนที่ยังคงลังเลอยู่ และอยากจะลองเปรียบเทียบด้วยตาตนเอง เพื่อเลือกซื้อฉนวนกันเสียงยี่ห้อไหนดี
ทางเราก็ขอแนะนำ gypstore ศูนย์รวมวัสดุฝ้าเพดานและผนังครบวงจร ที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกฉนวนกันเสียงที่ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุดได้ โดย gypstore จะให้บริการทั้งในด้านการให้คำปรึกษา รวมถึงยังมีศูนย์ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกดูและซื้อฉนวนกันเสียงที่ตรงกับความต้องการได้
นอกจากนี้ฉนวนกันเสียงแล้ว gypstore ยังมีจำหน่ายสินค้าอื่น ๆ เช่น แผ่นยิปซั่ม สมาร์ทบอร์ด และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เพื่อใช้ตกแต่งห้องอาคาร และมีบริการส่งสินค้าถึงที่อีกด้วย ดังนั้นหากสนใจซื้อฉนวนกันเสียงหรืออุปกรณ์อื่น ๆ สามารถติดต่อใช้บริการ gypstore ศูนย์รวมวัสดุฝ้าเพดานและผนังชั้นนำที่จะช่วยให้คุณได้สินค้าใช้งานดี ราคาไม่แพง
โทร : 099-261-3561
Line : @gypstore
Facebook : ยิปสโตร์ Gypstore
ยิปสโตร์ สำนักงานใหญ่ : https://goo.gl/maps/VvfN3SHinSVep4g5A
ยิปสโตร์ สาขาทุ่งครุ : https://goo.gl/maps/21GH5GsvXLqSzHwk6